พ่อใจแทบขาด เปิดประสบการณ์ลูกชายดื่มน้ำใบกระท่อมผสมยาแก้ไอนานเป็นเวลาถึง 2 ปี โดยที่ไม่ดื่มน้ำเปล่าเลยแม้แต่น้อย ทำให้เกิดลำไส้อุดตันจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วน หลังจากที่โพสต์เรื่องราวในลงโซเชียล มีเดีย พบว่ามีผู้ปกครองเข้ามาปรึกษาเป็นจำนวนมาก เพราะลูกหลานก็ป่วยในลักษณะเดียวกัน จึงอยากให้มีการตรวจสอบร้านขายน้ำใบกระท่อมที่แอบขายโดยผสมยาแก้ไอ พบว่ามีอยู่เป็นจำนวนมาก

       เคคัลเลอร์ โพสต์ในเพจ มงคลชัย ศรีไชยโย ถึงผลกระทบจากการที่ลูกชายได้ดื่มน้ำใบกระท่อมมาเป็นเวลามากว่า 2 ปี จนมีคนเข้ามากดถูกใจคลิปเป็นจำนวนกว่า 5 หมื่นคน คนเข้ามาคอมเมนต์จำนวนกว่า 1.8 พันคน แชร์ข้อมูลออกไปอีก 1.3 หมื่นคน และมีผู้ปกครองเข้ามาปรึกษาเป็นจำนวนมาก พ่อได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ลูกชายวัย 25 ปี ดื่มน้ำกระท่อมมาเป็นเวลาเกือบ 2 ปี ในตู้เย็นมีแต่น้ำใบกระท่อมและน้ำอัดลม ไม่มีน้ำเปล่าเลยแม้แต่เพียง 1 ขวด แต่ได้มารู้ในภายหลังว่าในน้ำใบกระท่อมที่ได้ซื้อมานั้นมียาแก้ไอผสม ซึ่งที่ร้านริมทางจะมีการแอบวางขาย ทั้งที่เป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ก็ยังไม่มีตรวจสอบหรือการปราบปรามใดๆ “ลูกดื่มแต่น้ำใบกระท่อม โดยที่ไม่ได้กินน้ำเปล่า แล้วยิ่งไปกว่านั้นยังมีการผสมยาแก้ไอลงไปด้วย จากที่ได้คุยกับคุณหมอพบว่า ยาแก้ไอมีสารเคลือบกระเพาะ ลำไส้ และหลอดลม คนที่ป่วยเมื่ออาการดีขึ้น ก็เลิกใช้ยาแก้ไอ แต่คนที่นำยาแก้ไอมาผสมกับน้ำใบกระท่อมนั้น เมื่อดื่มติดต่อกันไปเป็นเวลานานๆ สามารถทำให้ลำไส้อุดตัน กลายเป็นพังผืด ทำให้คนที่ใช้นั้น กินข้าวแล้วอิ่มเร็วและมีอาการถ่ายยาก ถ่ายลำบาก” สภาพร่างกายจากที่เป็นคนเคยอุดมสมบูรณ์ กลายเป็นคนที่มีร่างกานผอมแห้ง ผิวสีดำคล้ำคล้ายกับคนที่เป็นโรค การแสดงอาการเริ่มจากการขับถ่ายยาก ขับถ่ายลำบาก ถ้าขับถ่ายออกก็จะมีอุจจาระที่ส่งกลิ่นเหม็นจนทำให้ไม่สามารถเข้าห้องน้ำต่อได้ หลังจากที่กินอาหารแล้วอาเจียน มีอาการปวดท้องอยู่เป็นประจำ โดยลูกชายเมื่อปวดท้องจะไปที่คลินิกเพื่อฉีดยาแก้ปวด แต่ไม่นานก็กลับมาปวดอีกเรื่อยๆไม่หายถาวร ที่ผ่านมาเคยพาลูกไปหาหมอมาแล้ว 2 โรงพยาบาล แต่ไม่สามารถหาสาเหตุที่แท้จริงได้ จนมาถึงโรงพยาบาลสุดท้าย จึงพบต้นเหตุคือมาจากลำไส้อุดตัน แต่กว่าจะมาถึงโรงพยาบาลอาการก็เข้าขั้นหนักวิกฤต จึงต้องเข้ารับการผ่าตัดอย่างรวดเร็ว เพราะถ้ามาพบหมอช้ากว่านี้อาการอาจรุนแรงมากจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ เมื่อหลังจากที่ผ่าตัดเรียบร้อยแล้วต้องมาดูอาการว่าจะกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมได้หรือไม่ เนื่องจากคุณหมอบอกว่า มีคนที่ดื่มน้ำใบกระท่อมผสมยาแก้ไอแล้วมีอาการลักษณะแบบนี้อยู่เป็นจำนวนมาก มีจำนวนหลายคนเมื่อผ่าตัดเรียบร้อยแล้วมีอาการนอนติดเตียง หมดเรี่ยวแรง ไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม โชคดีที่ลูกชายไม่มีผลข้างเคียงที่หนักจนเกินไป แต่ต้องทำกายภาพบำบัด ขณะเดียวกันหมอก็ได้เตือนอีกว่า อาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งลำไส้ได้ ปกติลูกดื่มน้ำใบกระท่อมวันละ 5-6 ขวด ใช้เงินซื้อเฉลี่ยวันละ 500 บาท โดยน้ำใบกระท่อมขนาด 1.25 ลิตร มีการลักลอบขายแบบผสมยาแก้ไอขวดละ 100 บาท ถ้าไม่ผสมขวดละ 70 บาท “วัยรุ่นนิยมดื่มน้ำใบกระท่อมแบบผสมยาแก้ไอ เชื่อว่าทำให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า ขยันทำงาน ถ้าวันไหนไม่ได้ดื่มจะปวดเนื้อปวดตัว หลังจากที่มีการปลดล็อกใบกระท่อมทำให้วัยรุ่นหันไปดื่มกันเป็นจำนวนมากขึ้น ซึ่งพอโพสต์อาการลำไส้อุดตันของลูกลงโซเชียล มีพ่อแม่หลายคนเข้ามาปรึกษา ถามปัญหาต่างๆ เพราะลูกเขาก็ดื่มน้ำใบกระท่อมจนมีอาการเช่นนี้เหมือนกัน บางคนไปผ่าตัดแล้วยังนอนติดเตียงจนทำให้หมดอนาคต” มีผู้ปกครองรายหนึ่งเข้ามาปรึกษา เพราะลูก 4 คนดื่มน้ำใบกระท่อมตั้งแต่อายุ 14 ปี จนมาถึงตอนนี้ป่วยกลายเป็นคนไข้นอนติดเตียงทั้งหมดจำนวน 4 คน จึงอยากเตือนวัยรุ่นที่กำลังใช้น้ำใบกระท่อมผสมยาแก้ไออยู่ เพราะถ้ายังไม่เลิก ในภายภาคหน้าอาจทำให้เป็นผู้ป่วยติดเตียงอย่างที่หลายคนเป็นอยู่ตอนนี้ “ตอนเกิดกับลูกชาย ผมแทบใจสลาย ทำอะไรไม่ถูก ตอนแรกปล่อยให้ใช้ใบกระท่อม เพราะนึกว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้น เพราะเพิ่งจะมีการปลดล็อกออกจากยาเสพติด แต่สุดท้ายกลายเป็นบาดแผลในใจของคนที่เป็นพ่อ ความรู้สึกที่ยังรู้สึกผิดจนถึงทุกวันนี้ เลยอยากเตือนผู้ปกครองท่านอื่นให้ดูแลลูกหลานไม่ให้ใช้ใบกระท่อมมากไปจนเกินความจำเป็น” ฝากให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ ร้านขายน้ำใบกระท่อมริมข้างทาง ที่มีการลักลอบขายน้ำใบกระท่อมผสมยาแก้ไอ หรือสูตรต่างๆ ที่แอบขายกันอยู่ เพราะปัญหานี้มีหลายครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่วัยรุ่นที่กำลังใช้อยู่ อยากให้ใช้ในปริมาณเหมาะสม และไม่ผสมยาแก้ไอ “เท่าที่คุยกับวัยรุ่น จะดื่มน้ำกระท่อมผสมยาแก้ไอกันเป็นจำนวนมากทั้งนั้น ที่ผ่านมายังไม่เคยมีใครออกมาพูดถึงผลกระที่ได้รับ ซึ่งผมเองก็อยากให้กรณีของลูกชายเป็นอุทาหรณ์สอนใจ ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นกับครอบครัวอื่นๆ เพราะต้องเสียทั้งเวลา และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้”.