วันที่ 10 เม.ย. 2566 ที่ สน.พญาไท ลีนา จังจรรจา หรือลีน่าจัง เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ. วัลลภ อิสริยสกุลวงศ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.พญาไท เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ แพรี่ ไพรวัลย์ ในข้อหา หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา พร้อมนำเอกสารหลักฐานทั้งโพสต์ในเฟซบุ๊กต่อว่าตัวเองด้วยถ้อยคำหยาบคาย รวมถึงคอมเมนต์ของกลุ่มแฟนคลับแพรรี่ มามอบให้พนักงานสอบสวน

       จากนั้น ลีน่า จัง ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้ทำให้ตนเองเครียดจนเส้นเลือดในสมองจะแตก เครียดจนลืมกินยา ทั้งที่สาระสำคัญของเรื่องนี้ไม่มีอะไรมาก ซึ่งวันนั้นเดินทางไปถ่ายทำรายการให้ มดดำ คชาภา เป็นรายการใหม่ และไม่รู้ว่าจะมีแขกรับเชิญ เป็น แพรรี่ ไพรวัลย์ มาร่วมด้วย แต่เมื่อได้เจอกัน ก็มีการพูดคุย หยอกล้อเล่นกันไปมาตามประสาคนที่เคยรู้จัก และเคยร่วมงานกันมาแล้วประมาณสองครั้ง โดยเนื้อหาการพูดจา ทั้งหมดเป็นการหยอก ล้อเล่นกันไปมา ก็มีทั้งคำพูดจิกกัด คำพูดหยอกล้อ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตัวเองที่ถูกจิกกัดมากกว่า แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าเป็นเรื่องตลก ขำๆ เพื่อความบันเทิงและเอนเตอร์เทน และอีกอย่างไม่อยากให้เกิดบรรยากาศตึงเครียด เพราะตัวเองนั้นก็ให้เกียรติ มดดำ

       จนกระทั่งช่วงท้าย ตัวเองก็ไม่ได้คิดอะไร มองว่าเป็นการหยอกล้อเล่น จึงได้มีการกระชากวิกผมของแพรรี่ ด้วยความเอ็นดูเหมือนลูกสาว ซึ่งหลังจากกระชากวิกผมออก ตอนนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไร ทุกคนยังยิ้มแย้มและหัวเราะ รวมถึงแพรรี่ ที่ไม่ได้มีท่าทีว่าจะโกรธเคืองตัวเอง จนกระทั่งช่วงท้าย ตัวเองก็ไม่ได้คิดอะไร มองว่าเป็นการหยอกล้อเล่น จึงได้มีการกระชากวิกผมของแพรรี่ ด้วยความเอ็นดูเหมือนลูกสาว ซึ่งหลังจากกระชากวิกผมออก ตอนนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไร ทุกคนยังยิ้มแย้มและหัวเราะ รวมถึงแพรรี่ ที่ไม่ได้มีท่าทีว่าจะโกรธเคืองตัวเอง หลังจากที่แพรรี่กลับออกไป ได้มีทีมงานนำไลฟ์สดมาให้ดูว่าแพรรี่ร้องไห้ และรู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนนั้นตัวเองค่อนข้าง งง และยังได้ขอโทษผ่านรายการของมดดำไปแล้ว แต่อีกฝ่ายก็ไม่จบ มีการไลฟ์สดด่าตัวเองด้วยถ้อยคำหยาบคาย รวมถึงมีคอมเมนต์ของกลุ่มแฟนคลับ ที่มาต่อว่าตัวเองด้วย ซึ่งมีทั้งข้อความข่มขู่ว่าจะบุกมาถึงที่บ้าน มาทำร้ายร่างกาย ทำให้ตัวเองกังวล และมีความเครียดมาก

       ลีน่า จัง ยังบอกอีกว่าเรื่องที่เกิดขึ้น เหมือนแพรรี่เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส เรียกคะแนนความสงสาร และต้องการที่จะโปรโมตหนัง เพราะมีฉากกระชากวิกของแพรรี่ ในหนังเรื่องเสือเผ่น 1 ของ พชร์ อานนท์ อยู่ด้วย รวมถึงโปรโมตเพลง โปรโมต MV รวมถึงน้ำพริกที่ขายอยู่ เพราะหลังจากมีประเด็นดังกล่าวออกไปยอดขายน้ำพริกเห็นว่าขายดีถล่มทลาย แต่ตัวเองกลับต้องมาเป็นจำเลยสังคม และยืนยันว่าทั้งหมดเป็นการแสดงไม่ได้มีเจตนาทำให้อับอาย

       โดยหลังแจ้งความเรียบร้อย ลีน่าจัง บอกกับทีมข่าวอีกว่าหลังจากนี้ก็ยังพร้อมที่จะร่วมงานกับแพรรี่ เนื่องจากตัวเองมีสปิริตมากพอ.