“บิ๊กโจ๊ก” พบความเชื่อมโยงการตายมากถึง 9 ศพ คดี เมีย รอง ผกก.ที่ราชบุรี ได้ใช้ยาพิษไซยาไนด์ ฆ่าเหยื่อโดยการวางยา ส่วนใหญ่ผู้เสียชีวิตเป็นคนแวดล้อมในวงการข้าราชการตำรวจ ทุกคดีมีพฤติการณ์ที่ใกล้เคียงกัน

       คดีเมียตำรวจ-วางยา พบความเชื่อมโยงการตาย 9 ศพ ส่วนใหญ่เป็นคนแวดล้อมวงการตำรวจ กรณีนางทองพิน เกียรติชนะสิริ อายุ 63 ปี น.ส.นิภาวรรณ ขันวงษ์ อายุ 35 ปี มารดา และ พี่สาวของ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือก้อย อายุ 32 ปี เท้าแชร์ ชาว จ.กาญจนบุรี ที่เป็นลมวูบลงแล้วเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาขณะเดินทางไปทำบุญปล่อยปลากับเพื่อนสนิทที่ริมท่าน้ำแม่น้ำแม่กลอง พื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เข้าร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบ ช่วยตรวจสอบความผิดปกติเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิต พร้อมกับเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม โดยมี นางสรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ หรือแอม ภรรยาของตำรวจระดับ รองผกก. ในพื้นที่ จ.ราชบุรี ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายดังกล่าว ตามที่เคยมีการนำเสนอไปแล้วนั้น ต่อมาเมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 25 เมษายน 2566 ที่ สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชน ถึงกรณีดังกล่าวว่า จากการไล่เลียงลำดับของเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นพบว่า คดีนี้มีลักษณะที่คล้ายคลึงมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากถึง 9 คน โดย คดีที่ทางตำรวจสอบสวนกลางได้ขอศาลออกหมายจับเป็นคดีที่เกิดขึ้นที่บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เพราะฉะนั้นวันนี้ตนจะเข้าร่วมการประชุมพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจภูธรภาค 7 และเรียกตำรวจ 3 จังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่เกิด คือ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดนครปฐม และจังหวัดราชบุรี เนื่องจากคดีนี้มีระยะเวลา ผ่านไปแล้วถึง 2 ปี ประเด็นสำคัญคือการ ไล่เลียงพยานหลักฐานและความเชื่อมโยง เพื่อมัดตัวผู้กระทำความผิดให้จงได้ การที่ศาลออกหมายจับได้ ในวันนี้ถือว่ามีหลักฐานที่เพียงพอที่จะสามารถเอาผิดผู้ต้องหา ส่วนผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธอย่างไรก็ได้ ถือเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาขึ้นอยู่กับว่าศาลจะรับฟังหรือไม่ รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ส่วนหลักฐานที่สำคัญ ที่นำไปสู่การออกหมายจับ นั่นก็คือการผ่าพิสูจน์พบว่ามีสารไซยาไนด์ในร่างกายของผู้ตาย และหลักฐานจากการตรวจสถานที่เกิดเหตุพบขวดไซยาไนด์อยู่ที่บริเวณหลังบ้าน ส่วนเหตุจูงใจในการก่อเหตุน่าจะเป็นเรื่องที่มีความประสงค์ต่อทรัพย์สินของผู้ตาย แต่สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือ ผู้ตายทั้งหมดเป็นคนที่อยู่แวดล้อมรู้จักกับผู้ก่อเหตุทั้งหมดทุกคน ที่อยู่ที่แฟลตตำรวจและก็เป็นตำรวจ ตัวผู้ก่อเหตุจึงรู้ว่าเป้าหมายกำลังทำอะไรอยู่ และมีเงินหรือไม่มีเงิน อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ต้องดำเนินการให้ถึงที่สุดว่ามีผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในครั้งนี้หรือไม่ เพราะถือว่าเรื่องนี้เป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง วันนี้ญาติผู้ตายก็อยู่ที่นี่กับตนมีจำนวน 5 ราย ซึ่งน่าเห็นใจ เนื่องจากตอนแรกก็ไม่ทราบว่าลูกเสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไร คิดว่าเสียชีวิตจากสาเหตุธรรมชาติ ที่ผ่านมา ทางญาติไม่ได้ติดใจสาเหตุการตายจึงได้ไม่มีการไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เป็นห่วงเรื่องพยานหลักฐานมาก เนื่องจากการจะเอาผิดคนร้ายได้ ต้องใช้พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จึงต้องขอรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดเพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ทุกราย ต่อมาเมื่อเวลา 14.40 น. ตำรวจกองปราบได้ทำการควบคุมตัว นางสรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ หรือแอม มาให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ทำการสอบสวนโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ ก่อนที่ตำรวจกองปราบจะคุมตัวนางสรารัตน์ ไปสอบสวนต่อที่กองบังคับการปราบปราม โดยระหว่างที่คุมตัวนั้นนางสรารัตน์ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องคอยกันสื่อมวลชนให้ออกห่างจากตัวนางสรารัตน์ เนิ่องจากอยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิวินวิน เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. หลังจากที่พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับพยานหลักฐานกรณีการเสียชีวิตของ ร.ต.อ.หญิง กานดา โตไร่ ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี โดยพบว่า กล้องหน้ารถ สมาร์ทวอตช์ ไอแพด และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตได้สูญหายไป หลังจากพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวน คืนทรัพย์สินดังกล่าวให้กับทางญาติผู้เสียชีวิต