ผัวเมาเหล้าหึงโหด คว้าตะขอสอยมะพร้าว ฟันกระหน่ำไม่ยั้งมือจนเมียดับในที่สุด ต้นเหตุการทะเลาะวิวาทมาจากเรื่องเงิน และถูกด่าโดยใช้คำที่รุนแรง ไล่ออกจากบ้านพัก จึงกระดกเหล้าประชดก่อนก่อเหตุน่าสลด อีกทั้งยังมีความระแวงกลัวคู่รักจะมีชายใหม่

       เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 พ.ค. 66 พ.ต.ต.กิตติธัช คงนัทธี สว.สอบสวน สภ.บ้านโป่ง รับแจ้งเหตุพบหญิงเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 62/2 หมู่ 9 ต.สวนกล้วย อ.บ้านโป่ง จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ชาญ คำอารีย์สกุล พ.ต.ท.วีระชัย กวีกิจดุรงค์ สวป. พ.ต.ท.พิษณุ เชิดโฉม สว.สส. กำลังชุดสืบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน จ.ราชบุรี และมูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรี  ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ปลูกอยู่ภายในสวนมะพร้าว ในห้องนอนพบร่าง น.ส.ปิ่นมุก อารีย์มิตร อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ดังกล่าว สภาพศพสวมเสื้อยืดสีชมพู นุ่งกางเกงยีนส์ นอนตะแคงข้างเสียชีวิตอยู่บนที่นอน ตามบริเวณร่างกายพบบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคม ที่บริเวณศีรษะและต้นแขนข้างซ้าย บริเวณใกล้กันพบตะขอสอยมะพร้าวเปื้อนเลือดตกอยู่ ภายในห้องพบร่องรอยมีการต่อสู้ พบหยดเลือด และเศษผมกระจัดกระจายอยู่ทั้งบนที่นอน บนพื้นและผนังห้อง ต่อมาตำรวจสามารถควบคุมตัว นายมงคล ยู่โหง่ว อายุ 36 ปี ผู้ก่อเหตุ และเป็นสามีของผู้เสียชีวิต ได้บริเวณบ้านพักของพี่สาวที่ ต.หนองกบ อ.บ้านโป่ง ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวได้ทำการพูดคุยกับ นางเมตตา ยู่โหง่ว ผู้เป็นพี่สาวของผู้ก่อเหตุ ได้ให้ข้อมูลว่า น้องชายย้ายบ้านมาอยู่กินกับน้องสะใภ้ได้นานเป็นเวลาประมาณ 5 ปี ทั้งคู่ทำงานรับจ้างก่อสร้างทั่วไป ปกติก็จะรักใคร่สนิทสนมกันดี แต่เนื่องจากทั้งคู่มีนิสัยที่ชอบดื่มเหล้า ทำให้มีปากเสียงและมีการลงไม้ลงมือกันอยู่เป็นประจำ ด้วยเรื่องของความหึงหวง และเรื่องของเงินทอง ที่ชักหน้าไม่ถึงหลังทุกครั้ง ซึ่งทุกครั้งที่มีการทะเลาะวิวาทกัน ตนก็จะเป็นคนที่เข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยให้ตลอด จนกระทั่งวันนี้ เวลาประมาณ 09.30 น. น้องชายไปหาตนที่บ้านพักใน ต.หนองกบ ด้วยอาการคล้ายคนที่มีอาการสติแตก สติไม่อยู่กับร่องกับรอย แล้วได้บอกว่าได้มีการทะเลาะกัน และลงมือทำร้ายร่างกายภรรยา ขอให้ตนมาดูที่บ้านว่าภรรยามีอาการเป็นเช่นไรบ้าง เมื่อมาถึงบ้านที่เกิดเหตุ พบว่าบ้านถูกปิดล็อกจากทางด้านใน พยายามตะโกนเรียกก็ไม่มีเสียงตอบรับ พอชะโงกหน้าไปดูในห้องนอน พบว่าน้องสะใภ้นั้นได้นอนแน่นิ่งอยู่ รู้สึกใจไม่ค่อยดีแล้ว จึงโทรศัพท์หาแม่ของน้องสะใภ้ ก่อนที่จะตัดสินใจปีนกำแพงบ้านเข้าไป พบว่าน้องสะใภ้นอนตัวเย็นชืดและได้เสียชีวิตไปแล้ว จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ด้าน นางปรียานุช อินทร์อ่อน อายุ 51 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เล่าว่า นายมงคล ลูกเขยย้ายเข้ามาอยู่กินกับลูกสาว แล้วพักอาศัยอยู่ที่บ้านของตน ก็เห็นว่าทั้งคู่รักกันดี มีความขยันช่วยกันทำงาน แต่นายมงคลมีนิสัยที่อารมณ์ร้อนอยู่ตลอด โดยหลังจากทั้งคู่กินเหล้าก็มักจะมีปากเสียงทะเลาะกันเป็นประจำ เรื่องหึงหวงลูกสาว และหลังจากที่ได้สติ ก็จะเดินมาขอโทษตน พร้อมกล่าวว่า ผมจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ซึ่งตนก็สอนกลับไปว่า ขอให้พยายามตั้งสติ อย่าทำนิสัยเช่นนี้อีก แต่สุดท้ายนายมงคล ก็มาพรากชีวิตลูกสาวไปจากแม่ ซึ่งหลังจากนี้ ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่คิดจะไปแก้แค้น หรือรุมประชาทัณฑ์ใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนจะให้มากราบขอขมาศพนั้น ตนยังไม่ขอตอบตอนนี้ สอบสวน นายมงคล ยู่โหง่ว ผู้ก่อเหตุ ให้การรับสารภาพทั้งน้ำตาว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วานนี้ (23 พ.ค. 66) ตนออกไปซื้อเหล้ามาดื่มจนรู้สึกเมา ทำให้มีปากเสียงกับภรรยา จากนั้นเวลาประมาณ 22.00 น. จึงแยกย้ายกันไปนอน กระทั่งช่วงเช้าวันนี้ ขณะกำลังเตรียมตัวจะออกไปทำงานตามปกติ ภรรยาได้บ่นว่าตนเรื่องการใช้เงิน พร้อมกับขับไล่ให้ออกจากบ้านไป ประกอบกับก่อนหน้านี้ ภรรยามีท่าทีลักษณะคล้ายกับกำลังแอบปันใจให้กับชายคนอื่น อีกทั้งยังพูดจาด่าทอลามไปถึงแม่และพี่สาวของตนด้วย โดยการถ้อยคำที่หยาบคาย จึงกระดกเหล้าในขวดที่เหลือเพื่อเป็นการประชดประชัน แต่สุดท้ายก็เกิดบันดาลโทสะ คว้าตะขอสอยมะพร้าวที่วางอยู่ใต้โต๊ะกินข้าว กระหน่ำฟันเข้าไปที่ร่างของภรรยาอย่างไม่ยั้งมือจนภรรยานอนแน่นิ่งไป ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ไปบ้านพี่สาว ให้ช่วยมาดูภรรยา โดยไม่รู้ว่าภรรยาเสียชีวิตแล้วหรือไม่ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามตนขอฝากไปถึงแม่ของภรรยาว่า “ผมขอโทษ ผมพลาดไปแล้ว” และฝากบอกภรรยาที่ล่วงลับ “จากนี้ไปผมจะรักเขาคนเดียว จะไม่รักใครได้อีก” ทางด้านคดีเจ้าหน้าที่จะส่งร่างผู้เสียชีวิดไปตรวจสอบสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้งที่แผนกนิติเวช รพ.ราชบุรี ส่วนนายมงคล ผู้ก่อเหตุ จะทำการสอบปากคำอย่างละเอียด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.