ครอบครัวยังทำใจไม่ได้ “พิตบูล” คลั่งกระชากร่างเจ้าของที่เลี้ยงมากับมือ “อดีตจ๊อกกี้ม้า” เข้ากรง แล้วกัดจนเสียเลือดมาก ดับ หลังเอาตัวช่วยแม่ขณะโดนกัด
     สุดเศร้า “พิตบูล” คลั่ง ขย้ำเจ้าของที่เลี้ยงมากับมือเสียชีวิตลง หลังเอาตัวเองเข้าช่วยแม่ขณะโดนกัด วันที่ 9 ก.พ. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เมรุวัดทุ่งสว่าง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลศพ นายเทอดพงษ์ พิมพ์เกตุ อายุ 47 ปี อดีตจ๊อกกี้ม้าสนามโคราชรุ่งเจริญ ซึ่งบรรยากาศในพิธีเป็นไปด้วยความโศกเศร้าเสัยใจ โดยมีญาติพี่น้องและเพื่อนๆ เดินทางมาแสดงความอาลัยให้ผู้เสียชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมสดุดีผู้เสียชีวิต ที่ได้เอาตัวเองเข้าช่วยแม่จนถูกสุนัขเลี้ยงไว้กัดเป็นเหตุที่ทำให้เสียชีวิต จากการสอบถาม นางดวงสุรีย์ เครือเทศ อายุ 68 ปี ผู้เป็นแม่ของนายเทอดพงษ์ หรือ หนึ่ง เผยว่า ลูกชายได้รับสุนัขพิตบูลเพศผู้มาจากญาติตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ได้ตั้งชื่อให้ว่า “เจ้าบ๊อบบี้” ขณะนี้อายุประมาณ 7-8 ปี ที่ถูกเลี้ยงไว้ในกรงเลี้ยง และบางทีก็จะปล่อยให้วิ่งเล่นในพื้นที่หลังบ้านบ้างเป็นช่วงเวลา โดยที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุการณ์เจ้าบ๊อบบี้ได้หลุดออกไปแล้วกัดคนที่รู้จักและผู้ที่สัญจรผ่านไปมา ต้องได้เสียค่าทำขวัญและรักษาพยาบาลเป็นจำนวนมากกว่า 10 ราย ล่าสุดเหตุการณ์เกิดช่วงหัวค่ำของวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากอาบน้ำมานั่งดูทีวีในบ้านพัก ตนมีปัญหาสายตามองเห็นปุ่มกดไม่ชัดเจน จึงเดินออกไปบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกับกรงที่เอาไว้ใช้ขังสุนัข และส่งเสียงเรียกลูกชายให้ช่วย เนื่องจากไม่ทราบว่าเจ้าบ๊อบบี้ถูกปล่อยออกมาแล้ว ทันใดนั้น สุนัขได้วิ่งเข้ามาประกบยืนคร่อมตนพร้อมกับดมกลิ่น และสายตาเล็งที่ลำคอเตรียมพร้อมที่จะกัด ด้วยสัญชาตญาณก็เลยใช้ท่อนแขนรับแทนเมื่อแขนหลุด มันกัดที่ต้นขาซ้ายอีกสองที และเหวี่ยงร่างไปกระแทกกับรั้วบ้าน ทำให้เลือดไหลไม่หยุด กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งเพิ่มความคลุ้มคลั่งให้สุนัข ทันใดนั้นหนึ่งและน้องชายมาช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลรักษาอาการบาดเจ็บถูกกัดที่แขนขาเป็นแผลฉกรรจ์ ทราบภายหลังลูกชายถูกสุนัขกัดเสียชีวิต หากลูกไม่มาช่วย ตนคงได้เสียชีวิตไปแล้วตอนนั้น ทางด้าน นายมานะ เครือเทศ อายุ 51 ปี ผู้ช่วยเหลือที่ดูแลเจ้าบ๊อบบี้ คอยให้อาหารเวลาเจ้าของไม่อยู่ กล่าวว่า “เจ้าบ๊อบบี้” ไม่เคยมีพฤติกรรมดุร้ายเช่นนี้กับเจ้าของ หรือคนใกล้ชิดมาก่อน วันเกิดเหตุ เจ้าบ๊อบบี้ อาจสัมผัสได้กลิ่นแปลกปลอมเข้ามาในอาณาเขตของมัน จึงทำให้คลุ้มคลั่งพุ่งทำร้าย เนื่องจากพี่สาวของตนทำงานอยู่ต่างประเทศนานๆทีจะได้กลับมาเยี่ยมญาติปีละ 1-2 ครั้ง จึงทำให้ไม่มีความคุ้นเคย ช่วงนาทีความเป็นความตาย เจ้าบ๊อบบี้ กำลังขย้ำแขนพี่สาวอยู่นั้น หนึ่งใช้มืองัดปากสุนัขให้อ้าออก ตนหยิบด้ามคราดหวังจะตี แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร หนึ่งห้ามไว้ ก่อนบอกว่า “เดี๋ยวผมตีเอง” จากนั้นได้นั่งคร่อมไว้พร้อมส่งเสียงให้รีบนำพี่สาวไปรักษาก่อน ซึ่งคร่อมไว้ได้ไม่นานก็สู้กำลังสุนัขไม่ไหว เจ้าบ๊อบบี้ หลุดจากการควบคุม วิ่งหนีไปที่กรงขังของมัน หนึ่งก็รีบวิ่งตามไปติดๆ พร้อมหยิบท่อนไม้เพื่อตีสั่งสอนมัน ขณะกำลังง้างยกไม้ขึ้น ทันใดนั้นเจ้าบ๊อบบี้ก็ได้พุ่งกระโจนตอบโต้กัดเข้าไปที่แขนขวาจนล้มกระแทกพื้น ใช้ปากกัดแขนกระชากร่าง หลานชายเป็นคนร่างใหญ่น้ำหนักกว่า 95 กก. แล้วเจ้าบ๊อบบี้ก็ลากเข้าไปในกรง โดยกัดทั่วร่างกายจนเป็นแผลฉกรรจ์หลายแห่ง ซึ่งตนและแฟนสาวของหนึ่งได้ช่วยกันใช้ไม้ตีให้เจ้าบ๊อบบี้หยุดกัด จากนั้นก็ช่วยกันพาหนึ่งส่งไปรักษา แต่สุดท้ายแพทย์เวรระบุสาเหตุ เสียชีวิตเนื่องจากเสียเลือดปริมาณมากจากบาดแผลสุนัขกัดที่ต้นขา อย่างไรก็ตาม “เจ้าบ๊อบบี้” ยังคงถูกขังไว้ในกรงและปิดล็อกมีพันธนาการอย่างแน่นหนามาก เนื่องจากทุกๆคนยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียบุคคลที่รัก และพฤติกรรมที่ดุร้ายอย่างกับสัตว์ป่า ล่าสุดได้ติดต่อผู้ใจบุญนำไปเลี้ยงต่อแล้ว.